รัง

- ต้นรัง : เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบสูง 15–20 เมตร เปลือกต้นสีเทาแตกเป็นร่องตามความยาวลำต้น - ใบ : เป็นใบเดี่ยวเรียงสลับ แผ่นใบรูปไข่ ปลายใบมน โคนใบหยักเว้า - ดอก : สีเหลืองออกเป็นช่อ กลิ่นหอมอ่อน ออกดอกเดือนมีนาคม-เมษายน - ผล : รูปกระสวย มีปีกยาว 3 ปีก ปีกสั้น 2 ปีก ขยายพันธุ์เพาะเมล็ด สภาพที่เหมาะสมดินร่วนปนกรวดและดินทราย เป็นไม้กลางแจ้ง ต้องการน้ำและ

เปา เปาดอกแดง (ภาคเหนือ) ฮัง (ภาคอีสาน) ลักป้าว (เชียงใหม่) เรียง เรียงพนม (สุรินทร์)

Shorea siamensis Miq.

DIPTEROCARPACEAE

ใช่

โดยการเพาะเมล็ด

ดินร่วนปนกรวดและดินทราย เป็นไม้กลางแจ้ง ต้องการน้ำและความชื้นปานกลาง

1. ชาวไทใหญ่ทางภาคเหนือของไทยจะใช้ใบรังนำมาต้มกับน้ำอาบเป็นยาแก้อาการวิงเวียนศีรษะ (ใบ) 2. ตำรายาพื้นบ้านอีสานจะใช้เปลือกเป็นแก้โรคท้องร่วง และใช้ใบนำมาตำพอกรักษาแผลพุพอง (เปลือก, ใบ) 3. ชันยางจากต้นรังใช้ผสมกับน้ำมันทาไม้หรือน้ำมันยาง ใช้สำหรับยาแนวเรือ ภาชนะที่ทำจากไม้ไผ่ หรือเครื่องจักสานต่าง ๆ 4. ประโยชน์หลักของต้นรังที่คนไทยรู้จักแพร่หลายมาตั้งแต่อดีตคือการนำไม้มาใช้ในงานการก่อสร้างบ้านเรือน เพราะไม้รังเป็นไม้เนื้อแข็งที่มีความแข็งแรงทนทานเป็นอันดับหนึ่งคู่กับไม้เต็ง จึงเหมาะสำหรับการนำไปใช้ในการก่อสร้างที่ต้องการความแข็งแรงทนทานมากเป็นพิเศษ เพราะไม้รังสามารถรับน้ำหนักมาก ๆ ได้เป็นอย่างดี เช่น คาน เสา รอด ตง พื้น พื้นชานเรือนที่อยู่กลางแจ้ง สะพาน ไม้หมอนรถไฟ เรือ ส่วนประกอบของยานพาหนะ เครื่องมือกิจกรรม ต่าง ๆ และบางแห่งใช้ทำฟืน 5. คุณลักษณะอีกอย่างหนึ่งของต้นรัง คือ เป็นต้นไม้ที่มีความงดงามชนิดหนึ่ง เพราะนอกจากจะมีช่อดอกขนาดใหญ่สีเหลืองอ่อนออกเต็มต้นและให้กลิ่นหอมแล้ว ยามแตกใบอ่อนก็เป็นสีแดงทั้งต้น และเมื่อติดผลอ่อนก็จะมองเห็นปีกของผลอ่อนเป็นสีแดงเต็มต้นต่อไปอีกเช่นเดียวกัน


กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม
49 ถนนพระรามที่ 6 ซอย 30 แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400
เบอร์โทรศัพท์ : 02-298-5636
E-mail : green_area@dcce.mail.go.th